วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2554

คำถามถึงกวี



(๑)

๏  เพื่อนเอ๋ย?
สัมผัสรสเคยลึกซึ้งสดใส
ละมุนแห่งถ้อยวลีฤทัย
จากห้วงดวงใจให้ปวงประชา

๏ เขาแบ่งกวีเป็นสีเป็นขั้ว
พ่นคำระรัว ประหนึ่งคำด่า
รุ่มร้อนระอุผรุส์วาทา
ถ้อยแห่งอรรถาคุกรุ่นเพลิงกาฬ

(๒)

๏ คำว่า กวี นี้หมายอย่างไร?
คำถามจากใจ อยากให้ตอบขาน
ฤาเป็นการแสดงออกแห่งอุดมการณ์
ฤาเพียงเพื่อประหัตประหารอริศัตรู

๏ เพื่อนใช้ปากกาเป็นศัตราวุธ
วาดว่ายผรุสผ่านถ้อยสวยหรู
ถูกฉันทลักษณ์ตามหลักคำครู
นี้เพื่อน ฤาคู่ เรียกตน "กวี" ?

(๓)

๏ ถ้อยคำจากหนึ่งกวีกำมะลอ
ประพันธ์แค่พอให้ใจสุขี
อยากร่ายอยากเรียงอยากเริงวลี
ทุกสิ่งดั่งที่หัวใจสั่งมา

๏ ฉันใส่หัวใจในบทกวี
แฝงในวจี วลี ล้ำค่า
ส่งฤดีสารผ่านการเวลา
หนึ่งถ้อยวาจาแห่งจิตวิญญาณ ฯ

(๔)

๏ ฉันนั่งตีความตามบทกวี
ไร้ซึ่งชั่วดี เปรมปรีดิ์ประสาน
ทุกทุกกวีมีอุดมการณ์
ห่อนมีสาธารณ์ มีเพียงสุนทรีย์ ฯ

แล้วเพื่อนจะทะเลาะถกเถียงกันไปใย?


ทราย แดนหิมะ
เบิร์กลีย์ แคลิฟอร์เนีย


๑๒ ๑๔ ๑๑

วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2554

สื่อสาธารณะ

M.C. Escher, Drawing hands, 1948

๏ นี่หรือคือเอกสิทธิอิสระ?

นี่หรือคือสื่อสาธารณะ?

เห็นเพียงแค่ ขยะ เชิงพาณิชย์



๏ ท่ามกลางความวุ่นวายโกลาหล

ท่ามกลางความสับสนวิปริต

ท่ามกลางความขัดแย้งทางความคิด

ปากกายังพ่นพิษทำลายคน



๏ อนิจจา สื่อแห่งโลกศิวิไลซ์

นิยมใช้ ความวุ่นวายสับสน

ใช้ความกลัว พลัดพราก ความยากจน

มาเขียนก่นขายข่าวเอาแต่เงิน



๏ จรรยาบรรณของสื่อคืออะไร?

จรรยาบรรณในหัวใจยังตื้นเขิน

จรรยาบรรณหลงทางถูกหมางเมิน

ฤาเพราะค่าของน้ำเงินมันค้ำคอ?



* * * *



ทราย แดนหิมะ



เบิร์กลีย์ แคลิฟอร์เนีย

๑๒ ๘ ๑๑





* * * *

วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

มิซ มิซ

(๑)

๏ มิซ มิซ เจ้าดาลิ้งก์ .................เหลือเกิน

อยากมีต, คิส, หยอกเอิน............แค้นท์เว้ท

แวร์อิสมายแม่มหาจำเริญ..... ฮันนี่ หายนา

เร็วเร็วด้อนท์บีเล้ท .......รักน้าาาาา จุ๊ฟ จุ๊ฟ




...




(๒)

๏ เปิดเว็บแคมเร็วเร้ว .............เร็วซี แม่เฮย

แก้มป่อง ปากจู๋ ตาตี่ ................ชูสองนิ้ว

โชว์เนินอกอูมดี ..........................ตึงเต่ง

ใครเห็นบอกว่าคิ้ว....... แอ๊บแบ๊วแอบเด็ก



...



(๓)

๏ มองรูปเฟซบุ๊คแล้ว .................... งวยงง

ใครวะเนี่ยทำลง .......................ปายด้าย

งามแท้แม่โฉมยง ...................หน้าเบี้ยว

ยืดหน้าพอให้คล้าย ......... หัวน้อง แตงโม



...



(๔)

เพื่อนเพื่อนนั่งใกล้ใกล้ ..................ไม่ทัก

ว๊อซแซ๊บนะที่รัก..........................คูลแท้

พิมพ์มาอย่ายึกยัก.........................เร็วรี่

เจ้าแม่เทคโนโลยีไม่แพ้.........รักแท้ ทุนนิยม



...



ทราย แดนหิมะ
เบิร์กลีย์ แคลิฟอร์เนีย



๑๑ ๑๑





หมายเหตุ (๑) : มิซ= miss, ดาลิ้งก์ = Darling, มีต = meet, คิส = kiss,

แค้นเว้ท = cant wait, แวร์อิสมาย = where is my ... ,ฮันนี่ = honey,

ด้อนท์บีเล็ท = dont be late, จุ๊ฟ จุ๊ฟ = จุ๊ฟ จุ๊ฟ



หมายเหตุ (๒) : เว็บแคม = web cam, คิ้ว = cute



หมายเหตุ (๓) : ปายด้าย = ไปได้



หมายเหตุ (๔) : ว๊อซแซ๊บ = whatsapp, คูล = cool

วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

แช่งรัก : ระทม

๏ รักเธอล้นฤทัย
ในหัวใจใฝ่พบเจอ
คิดถึงแต่หน้าเธอ
เฝ้าละเมอเพ้อทุกคราว

๏ หัวใจห้วงหัวใจ
อยากลอยไปในห้วงหาว
เก็บฟ้าและเก็บดาว
มาคลุกข้าวให้เธอกิน

๏ ชอกช้ำจำเลยรัก
เพราะอกหัก จึ่งรักสิ้น
น้ำตาที่รายดิน
ยังราคินในอุรา

๏ ที่รัก จงชิมดู
ความอดสู ความห่วงหา
เมื่อเจ้าไม่นำพา
ขอจงอย่าให้ความหวัง

๏ รักเจ้ารักเจ้านัก
ครั้นพ่ายพักจึงหักพัง
หัวใจที่พลาดพลั้ง
ยินหรือยังเสียงน้ำตา

๏ หยดแซมลงแกล้มข้าว
แห่งสกาวดาริกา
ปรุงรสด้วยน้ำตา
ด้วยห่วงหาและอาดูรย์

๏ ลาแล้วขอลาก่อน
รักยอกย้อน เคยเกื้อกูล
ใจหายมลายสูญ
ที่พอกพูนคือระทม !!!

ทราย แดนหิมะ
เบิร์กลีย์
๑๑.๑๑

หุ่นเชิด

๏ หุ่นเชิด เชิดหุ่นอ้าง .....รุจี
ใบหน้างามท่วงที ........เจี่ยวแล้
ซ่อนนัยแห่งไพรี ....กลซ่อน
บดบังปิดธาตุแท้...เก็บไว้ ลึกเหลือ ฯ

...

๏ น้องนางนางพี่เจ้า ...... ลวงนาง
ค่าเรียงรูปอำพราง ..... ร่างน้อง
ชูชักขยักทาง ........กำหนด
จึ่งผู้คนแซ่ซ้อง ....เสียสิ้น ตระกูลเธอ ฯ

...

๏ ใบหน้าแม้เติมแป้ง .... แต่งกัน
ยามแป้งลบเลือนครัน...ปูดหน้า
ปลาร้าในน้ำมัน ....ไร้กลิ่น ทรามแฮ
จุดไฟคงกลิ่นกล้า ... สามบ้านเจ็ดเรือน ฯ


ทราย แดนหิมะ
เบิร์กลีย์

๑๑ ๑๑

ตุ๊กตา

๏ หน้าตาเคยงามไซร้ ......หัวหู
ผ่านหลายหลากฤดู......ก็สิ้น
รกร้ายรายทางปู.....ดงขวาก
เก็บกินถ้วนทุกชิ้น...อิ่มแท้ ตามสไตล์ฯ

๏ ตุ๊กตุ่นร้องไห้จ้า .........หัวจะขาด
ตากฝนฟ้าเอน็จอนาถ.....ทุกข์แท้
ร่างทรงไร้อำนาจ........เพียงหุ่น เชิดเฮย
ดั่งตัวเสียกระบาลนั่นแล้ ...ห่อนไร้คนชมฯ

ทราย แดนหิมะ

เบิร์กลีย์
๑๑ ๑๑


In response to ตุ๊กตา - ธุลีดิน ธรรมดา

สยามาเพศ

๏ อสนีบาตฟาดฟ้า...................ดินสลาย
กอกล้วยก็กล้ายกลาย................เกลื่อนหล้า
ปลาร้ายกขึ้นหิ้งบูชา....................คุ้งกลิ่น
เทพไท้กลายใบ้บ้า............เปรตร้องเต็มสวรรค์ฯ

ทราย แดนหิมะ

เบิร์กลีย์
๑๑ ๑๑

วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ร่ายโองการแช่งน้ำท่วม

(๑)
อาสมัยทุรยุค วารีรุกทุกละหาน ผู้คนกินดินดาน เรือนบ้านสิบรรลัย กินแกลบเพราะการเมือง ยินแต่เรื่องเฉไฉ เอ็ง"เอาอยู่"ร่ำไป ฤามีใครรู้เทียมทัน บริจาคบริโภค รอไว้โลกแตกสะบั้น มิคิดจะปันกัน ทุกคืนวันสิตรมใจ

(๒)
วารีก็โถมทับ สับปลับก็เปิดเผย ของเชลยเกลื่อนลอยน้ำ ยินแต่คำไม่เสียหาย คนล้มตายก็มี สียังอ้างอยู่แดงแดง แถลงการณ์ไม่ซื่อ รื้อกฏหมายอุบาทว์ ผิสนชาติล่มสลาย

(๓)
อุทกยังพัดพา สุขาสิลอยเกลือน ณ พื้นเรือนแห่งโรงฟ้า เห็นแล้วน่าอนาถแท้ รัฐบาลแก้ปัญหา ยคทุรคาอาเพศ ซ้ำเติมเหตุวิบัติชาติ บาดใจไปทั้งโลก โขกสับหน้าซื่อ สื่อยังไม่เป็นธรรม ชี้นำเพื่อชื่อเสียง หมายเพียงประโยชน์ตน

อนิจจา... ทุรชนยังกินไทย


ทราย แดนหิมะ

เบิร์กลีย์
๑๐ ๑๑

in response to
นิราศธุลีดิน : ร่าย - ธุลีดิน ธรรมดา

วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ดอกไม้ แสงดาว และคาวเลือด ...

(๑)



ดูซี ดูซี ทุ่งดอกไม้...

หวานหอมพริ้งพราย ดอกไม้สวย

ที่ตรงนี้มีลำธารละหานห้วย

หอมระรวยกลิ่นพฤกษานานาพันธุ์



สายลมโชย ผ่านเป็นริ้ว พริ้วพริ้วไหว

ความงดงาม ในหัวใจ ใช่ความฝัน

นิทรแนบเคียงเตียงบุปผาห่มตาวัน

ก่อนหน้านั้นเป็นอย่างไรฉันไม่รู้ ...

.

.

.



(๒)



เหมือนเหตุการณ์พึ่งผันผ่านเมื่อวานนี้

การโรมรันราวีของนักสู้

อายอาฆาตฟาดฟันยังพันตู

ทิ้งรอยเลือดผ่านฤดูแห่งดวงดาว



... ละวางบ้างเถิดนะคนกล้า

ให้เลือดบ้าที่คาใจได้คลายฉาว

ร่ำลาโศกนาฏกรรมช้ำและคาว

ฝากรอยร้าวห้วงหัวใจไว้กับดิน

.

.

.



(๓)

ซากกองเลือดเคยมีที่ตรงนั้น

ผ่านคืนวัน คราบเลือด ก็เหือดสิ้น ...

เพลานี้ ที่ตรงนี้ มีชีวิน

หอมระรินรายลบกลบเลือดคาว



เมล็ดพันธุ์งดงามแห่งดอกไม้

กำเนิดจากซากความตายอันอื้อฉาว

ในฤดูแห่งช้ำอันยืนยาว ...

ยังพริ้งพราวสกาวแสงแห่งชีวิต





~~~



ในค่ำคืนเดือนดับ ... และลับดาว

ยังมีแสงสุกสกาวในหัวใจ



.

.

.

.....



ทราย แดนหิมะ ...

เบิร์กลีย์, แคลิฟอร์เนีย

๕.๒๗.๑๑

วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2554

นองเนือง

๏ นองเนืองเมืองบ่าน้ำ.............เนานาน
ฤาเทพไท้ดลดาล...............กลั่นแกล้ง
หลากไหลรุกรอนราน..........จมล่ม เมืองนา
หากน้ำใจบ่แล้ง............อาจรั้ง ภัยชล ฯ

ทราย แดนหิมะ
เบิร์กลีย์ แคลิฟอร์เนีย

๑๐.๑๑

Inspiration: บางบัวทอง - ธุลีดิน ธรรมดา

วันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ภาพความหลัง

๏ คิดถึงภาพความหลังอลังการ

ระลึกผ่านสู่ฝันวันเก่าเก่า

กาลเวลาพรากไปไม่เหลือเงา

เพียงโศลกพริ้งเพราไว้เตือนใจ ฯ


ทราย แดนหิมะ
เบิร์กลีย์ แคลิฟอร์เนีย

๑๐.๑๑

Inspiration: รถโฆษณาหนังรัก - สิงหา สัตยนนท์

วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554

กุลาร้องไห้

กุลาร้องไห้



๏ ทุ่งกุลา... เจ้าร้องไห้

ออน้ำตาตกรายด้วยสับสน

ท้องทุ่งร้าง...คือคำอ้างของบางคน

ไฟรุ่มร้อนจึ่งรานรนเจ้าอีกครั้ง



๏ เมื่อก่อนเก่า เคยวิโยค โศกภัยแล้ง

ยามนี้เจ้าพรายแสงสะพรั่ง

ท้องทุ่งงาม นามกุลา จึ่งโด่งดัง

เป็นขุนคลังข้าวหอมแห่งดวงดาว



๏ เขาว่าเจ้าคือแดนฝันอันเรืองรุ่ง

หวังดอกเงินจะผลิฟุ้งเต็มทุ่งข้าว

เขาหมายเปลี่ยนทุ่งรวงทองเป็นรวงเทา*

ลืมว่าชั่วจะมัวเมา ทุ่งกุลา



๏ แลกด้วยความตกตื่นหื่นกระหาย

ฝากดีร้ายไว้ที่เต๋าตรงหน้า

และกับไพ่ในมือที่ถือมา

อนิจจา... ทุ่งกุลา คาสิโน



๏ จะเอา ผืนนาข้าว สกาวสวย

บูชายัญ ความร่ำรวย สุโข

เผื่อจะผลิดอกเงิน ฟ่อนโตโต

ใครฉาว ใครโฉ่ ใครขื่นคาว?



๏ ทุ่งกุลา ฤาเจ้าต้อง ร้องอีกครั้ง?

ดอกเงินบานสะพรั่งด้วยอื้อฉาว

เม็ดเงิน เม็ดงาม เม็ดพราว

แลกวัฒนธรรม ยืนยาว ชาวกุลา



๏ ในความรุ่งเรืองรองเราร้องไห้

เมื่อผืนนาแผ่นสุดท้ายสิ้นตรงหน้า

ทุ่งรวงทองทุ่งข้าวของชาวประชา

กลายเป็นบ่อนใบ้บ้าคาสิโน ....

.

.

แล้วเราจะกินข้าวจากที่ไหน?





ทราย แดนหิมะ




เบิร์กลีย์ แคลิฟอร์เนีย

๙.๑๑





Inspiration:


ทุ่งกุลาคือทุ่งข้าว

ทุ่งกุลาคือทุ่งคน

ทุ่งกุลาคือทุ่งแห่งชาติ
- ไพวรินทร์ ขาวงาม



* สีเทา = สีของแบงก์พัน ...และเป็นสีของความหม่นมัว